บทที่ 2 เขียนป้ายขายตน

“อย่าเพิ่งตัดช่องน้อยเลย เพราะต่อจากนี้ เจ้าก็จะต้องชดใช้ทุกอย่างให้แก่ข้า รวมถึงคนที่จากไป จงอยู่เหมือนตกนรกไปทั้งชาติเถิด” เขากล่าวจบ ก็เตรียมลากนางให้ก้าวตามไป ทว่าในยามนั้นหรันอันเจียวดิ้นรนขัดขืนอย่างแรง พอนางหลุดจากมืออีกฝ่าย ก็ใช้ทุกวิถีทางที่จะเอาตัวรอด

ตู้หลัวเซียววิ่งตามมาติดๆ เมื่อเห็นว่านางกำลังจะเข้าไปถึงสำนักนางชี เข้าก็เขวี้ยงมีดสั้นออกไป ซึ่งมันปักเข้าที่แขนข้างหนึ่งของนาง

หรันอันเจียวเจ็บปวดยิ่งนัก แต่กัดฟันก้าวไปอีกเล็กน้อย ร่างบอบบางก็ทรุดลงช้าๆ

อึดใจต่อมา มือใหญ่ ๆ ของตู้หลัวเซียวดึงผมบนศีรษะนาง ก่อนหมุนหน้าให้มาเผชิญกับเขา

“ร่างกายเจ้าเป็นของข้า วิญญาณนี้ก็เช่นกัน”

ได้ยินเช่นนั้นหรันอันเจียวพลันเย็บเยียบไปทั้งร่าง อีกทั้งนางเจ็บแผลเหลือเกิน

“คุณชายใหญ่ เชื่อข้าเถิด... ท่านจะไม่ได้ครอบครองสิ่งใด ทั้งร่างกายและวิญญาณของคนแซ่หรันนี้” นางบอกเขา และเสมือนเป็นการยั่วโทสะ มีดสั้นที่ปักอยู่แขนของนาง จึงถูกกดให้ลึกกว่าเดิม ก่อนที่เขาจะดึงมันออกอย่างรวดเร็ว

หรันอันเจียวเจ็บปวดหนัก นางหวีดร้องอย่างน่าสงสาร และเลือดก็ไหลออกมาไม่หยุด

“ข้าจะไม่ให้เจ้าตายง่ายๆ จำไว้ว่า เจ้าต้องรับกรรมที่ตนเองก่ออย่างสาสม”

หญิงสาวสงบนิ่ง และพยายามรวมรวบพลังของตน กระทั่งสบโอกาสเหมาะเมื่อตู้หลัวเซียว ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ หมายจะใช้ริมฝีปากบางๆ จูบนางด้วยความหื่นกระหาย!

แต่เขาก็ชะงักไว้ทัน ด้วยเห็นว่าหรันอันเจียว มีประสงค์ร้ายผ่านดวงตากลมโตของนาง

ในยามนั้น มีดสั้นที่เขาถือไว้ และอาบด้วยเลือดหรันอันเจียว จึงแทงลงที่ข้างแก้มข้างหนึ่งของหญิงสาว!

หลายชั่วยามต่อจากนั้น ร่างบอบบางลอยตามน้ำไปติดอยู่ที่โขดหินใหญ่ กระทั่งรู้สึกว่ายังคงมีเรี่ยวแรงจึงพยุงตัวลุกขึ้น เสื้อผ้านางขาดวิ่น แก้มข้างหนึ่งมีแผลลึก ส่วนแขนที่ถูกแทงเลือดหยุดไหลแล้ว ข้อเท้าข้างหนึ่งก็แพลง นางเจ็บปวดทั้งตัว ทว่ารู้ดี ไม่อาจอยู่ที่นี่ได้ เหนืออื่นใด นางไม่ใช่คนในโลกนี้ ด้วยเจ้าของร่างตายไป นับแต่พลัดตกหน้าผา ก่อนล่วงสู่ผืนน้ำกว้าง

ปัจจุบัน

เมืองฉิน

ดวงตากลมโตมองไปรอบๆ จุดที่นางยืนอยู่ แรกเริ่มก็ตั้งใจเปิดการแสดงปาหี่ด้วยการปามีดให้ทุกคนชม ทว่าตลาดดังกล่าว เน้นการซื้อขายของต่างๆ อีกทั้งทางการเมืองฉิน มีการเรียกเก็บภาษีจากผู้มาต่างถิ่นแพงเสียด้วย นางจึงคิดว่าคงได้ไม่คุ้มเสีย

ดังนั้น สิ่งที่ตัดสินใจทำคือ เขียนป้ายขายตน หวังเรียกความสนใจของผู้คน

ความคิดนี้บ้าระห่ำจริงๆ ทว่านางอยากได้เงินสักก้อน มอบแก่ท่านป้ากับท่านลุง ที่ช่วยพานางเดินทางมาจนถึงเมืองฉิน พร้อมให้ข้าวให้น้ำหลายมื้อ ยามนี้ท่านป้าล้มป่วย จึงต้องการเงินซื้อยา ผิดแต่ทั้งสามชีวิต แม้แต่เงินสักอีแปะก็ยังไม่เหลือ

เมื่อหรันอันเจียวเห็นว่าตลาดคึกคัก มีคนขายทั้งวัว ลูกหมู สุนัขป่า ลิง ดังนั้นนางจึงขอให้ท่านลุงเขียนป้ายให้ แล้วป่าวประกาศขายตนเอง

แรกเริ่มมีหนุ่มๆ หลายคนเข้ามาสนใจ ทว่าพอรู้ว่า นางมีแผลเป็นที่แก้มข้างซ้าย ทั้งยังกล้าประกาศขายตนต่อหน้าธารกำนัล หากพวกเขาพาเข้าเรือนก็อาจเป็นตัวอัปมงคล นำพาความโชคร้าย

นอกจากนั้นหรันอันเจียว ยังมีคำถามหนึ่งข้อ หากตอบได้ตรงใจนาง ถึงจะเรียกว่าการซื้อขายสำเร็จ

และก่อนเขียนป้ายขายตนเองที่ตลาดกลางเมืองฉิน หรันอันเจียวรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลย วิญญาณนางคล้ายจะหลุดออกจากร่าง อาการดังกล่าว เป็นๆ หายๆ มันเกิดขึ้น นับตั้งนางถูกตู้หลัวเซียวกรีดหน้า!

ครั้งนั้น หญิงสาวแทบเสียสติ หากสุดท้ายก็เป็นคุณชายรองเข้ามาช่วยเหลือ เหตุการณ์ต่อจากนั้นคล้ายถูกลบหายไป นางพลัดตกเขา ซึ่งบาดเจ็บทั้งร่างกาย แขนข้างหนึ่งก็หัก กระทั่งได้รับการช่วยเหลือจากคณะละครเร่ นางใช้ชีวิตอยู่กับคนกลุ่มใหญ่หลายเดือน เมื่อพวกเขาต้องเดินทางไปเมืองหลวง นางจำใจโบกมือลา

การอยู่ที่คณะการแสดง ทำให้หรันอันเจียวรู้จักการปกปิดแผลที่ข้างแก้ม กระนั้นก็ยังเห็นเป็นรอยลึก วันเวลาผ่านไป หรันอันเจียวยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งนางใช้แป้งปกปิดแผลทุกวันก็จริง ทว่าสิ่งที่เยียวยานางได้คือการยิ้มให้กับโลก

“นับแต่นี้ อารุ่ย จะส่องแสงสว่างให้ตนพบความสุขในทุกๆ วัน” นางบอกตัวเอง และชื่อ ‘รุ่ย’ คือสิ่งยึดเหนี่ยวนางกับโลกที่จากมา

กระนั้น หรันอันเจียวใช้ชีวิตไม่ง่ายเลย นางมักหวาดผวาต่อบุรุษ ไม่ชอบสบตาคนแปลกหน้า ซึ่งทุกอย่างค่อยๆ ดีขึ้น เมื่อวิญญาณที่มาสวมร่างปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้

และหญิงสาวมาถึงเมืองฉินตอนเช้ามืด ตอนนี้ตกบ่ายแล้ว นางหิวจนท้องร้องโครกคราก และอ่อนเพลียจากการเดินทาง จึงหน้ามืดสลบไป

กระทั่งลืมตื่น ความทรงจำใหม่ๆ ถูกเติมเข้ามา นางรับรู้ว่า หรันอันเจียวคนใหม่ เดินทางมาจากที่ไกลแสนไกล จุดประสงค์ที่มาอยู่ในร่างนี้เพื่อช่วยให้เจ้าของร่างได้มีลมหายใจสืบต่อไป และคงเป็นวาสนาของสตรีจากยุค ปี ค.ศ.20xx กับเจ้าของร่าง ที่เคยเกื้อกูลกันมา

ทว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นการคาดเดาที่ไม่ถูกต้อง เพราะเมื่อนางได้เห็นบุรุษผู้นั้น ที่มาพร้อมเด็กชายวัยสี่ย่างห้าขวบ และเด็กหญิงร่างผอมสูง หรันอันเจียวจึงแจ้งใจว่า สวรรค์ลิขิตให้นางมาอยู่ตลาดเมืองฉิน ทำเรื่องไร้ยางอาย ให้ผู้คนมองอย่างเหยียดหยามด้วยการขายตนเอง เป็นเงินห้าตำลึงเงิน ก็เพื่อจะได้พบกับซ่งเฟิงหัว

ยามนี้ด้ายแดงได้เริ่มทำหน้าที่ของมันแล้ว เพียงแต่นางกับเขาจะร้อยใจเชื่อมมัดกันไว้ จวบจนชั่วฟ้าดินสลายได้หรือไม่

บทก่อนหน้า
บทถัดไป